ถาม - เลิกกับคนรักมาพักใหญ่แล้วค่ะ แต่ยังคิดถึงและห่วงใยเขาอยู่เสมอ ต้องห้ามใจไม่ให้โทรหาเขา บางครั้งเขาก็ทำเหมือนห่วงใยเรานะคะ แต่เราก็รู้ว่าเขาไม่ได้รักแล้ว ทรมานเหลือเกินค่ะ ทำยังไงดีคะผมโดนแฟนคนแรกทิ้งตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง
นี่กี่ปีแล้วล่ะ.. นิ้วจะไม่พอนับแล้วมั้ง ผมก็ยังไม่เคยลืมเธอเลย
แต่นึกถึงขึ้นมา ก็ไม่เคยทุกข์อะไรเลยนะ
การจำได้ หรือลืมใครสักคน มันไม่เกี่ยวกับความทุกข์ หรือสุขนะครับ
พูดให้เจาะจงกว่านั้น ที่คุณทุกข์ ไม่ใช่เพราะยังไม่ลืมเขาหรอก
คุณทุกข์ เพราะคุณเกลียดตัวเอง ที่ยังจำเขาได้ และไม่ลืมเขาต่างหาก
คุณทุกข์ เพราะคุณอยากบังคับให้จิตมันลบความจำของเขาออกไป
พอบังคับไม่ได้ คุณก็โกรธมัน โกรธตัวเอง
ทุกข์มันเริ่มขึ้นตรงนั้นแหละครับ และยังอยู่มาหกเดือน
เพราะคุณไม่เคยวางมันลง
ลองเปลี่ยนความเกลียดชัง เป็นความปล่อยวางสิครับ
ที่คุณบอกว่า ...
"แต่ตอนนี้เรารู้สึกว่าใจเรามันจะคิดอยากทำอะไรก็ช่างมันเถอะ"
อันนี้เริ่มถูกทางแล้วครับ ไชโย... ไช ไช ไช โย โย โย
"เราเหนื่อยกับการต้องห้ามใจตัวเองแล้ว"
เหนื่อยแล้วก็หยุดเสียนะครับ
ลองทำใจให้เป็นกลาง ลองเชื่อความรู้ที่มีมาสองพันกว่าปีแล้ว ว่า..
จิตมันจะหมดทุกข์ไม่ได้ ถ้าเราไปพยายามบังคับมันตลอดเวลา
ถ้าไม่อยากเป็นทุกข์.. จงเรียนรู้ที่จะอยู่กับความทรงจำ อย่างสันติ มีสติ อย่าไปเกลียดมัน
เหมือนเรามีแผลอยู่อันนึง แห้งแล้วเป็นแผลเป็นยาว
ถ้าเราไปเกลียดมัน เราก็จะทุกข์ ทุกครั้งที่เห็นมัน
บางทีอยากเอากระดาษทรายมาขัดมันออก แล้วเราก็เจ็บเอง
อยากเอามีดมากรีดมันออก เราก็เจ็บเอง แผลก็ยิ่งเหวอะหวะยิ่งกว่าเดิม
จะดีกว่านะครับ ถ้ายอมรับว่า ครั้งนึงเราเคยมีเหตุที่ทำให้ได้แผลนี้มา
แล้วก็อยู่กับปัจจุบันต่อไปให้ดี ว่ามันก็เป็นแค่ส่วนนึงของร่างกายเรา
เคยอ่านเรื่องของนักร้องผิวดำชื่อ Seal คนที่ร้องเพลง Kiss from a rose
เขามีรอยแผลเป็นกลางหน้าเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวเลย
เขาบอกว่า ตอนแรกๆที่เขามีแผลนี้มา เขาทุกข์มากเลย
เขาเกลียดมันมาก ที่ทำให้เขาดูอัปลักษณ์
แต่พอเวลาผ่านไป เขาเริ่มยอมรับ และทำความคุ้นเคยกับมัน เหมือนมันเป็นของปกติเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
เขาสังเกตว่า .. ยิ่งเขาปล่อยวางได้มาก ยอมรับมันได้มากเท่าไหร่
เขาก็พบว่ามันสวยงามมากขึ้น และทุกข์น้อยลงเท่านั้น
ทุกวันนี้ เขาภูมิใจกับมันมาก เพราะเขารู้สึกว่า มันทำให้ทุกคนสะดุดตา ที่เห็น
และเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร
ครึ่งค่อนของความสุขในชีวิตเรา ขึ้นกับมุมมองของเราเองนะครับ
ปล่อยมันไปนะครับ
โดย
aston27ที่มา
http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2006/06/L4437257/L4437257.html