ถาม: เคยชอบผู้หญิงที่เป็นทอมคนหนึ่ง ตอนหลังความสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนไปเป็นไม่ดีต่อกัน เขาไม่สนใจเราแล้วแต่ใจเราก็ยังห่วงหาเขาอยู่ พอแยกกันแล้วพบว่าตัวเองก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีก คือเป็นกับคนนี้คนเดียว และพบว่าตัวเองก็ยังชอบผู้ชายอยู่ แบบนี้เรียกว่าเป็นคู่เวรคู่กรรมกันหรือเปล่าคะ? จะแก้ไขอย่างไร?ถ้ามองออกมาจากมุมของอุปาทานขันธ์ ๕ ก็จะเห็นว่าความจริง ‘เพศ’ เป็นแค่อุปกรณ์หลอกล่อให้หลงยึดถือทางกาม
เหมือนกับธรรมชาติออกแบบ หรือออก "กฎ" มาให้หญิงคู่กับชายเท่านั้น แต่ก็จะมีบางคน บางกลุ่ม ที่หลุดขั้วออกจากกฎธรรมชาติ ถ้าเป็นบางศาสนาจะประณาม กล่าวโทษ และตอกย้ำให้เป็นบาปผิดสถานเดียว แต่ศาสนาเราอธิบายได้ว่าเป็นเรื่องของผลกรรมในอดีต ถ้าชอบอะไรแบบผิดเพศไปเลยก็จัดว่าเป็นเรื่องของกรรมประพฤติผิดในกามจากปางก่อน แต่ถ้าชอบแบบเฉพาะเจาะจงก็อาจเป็นกรณีพิเศษที่เคยครองคู่แบบหญิงชายมาก่อน แม้พระพุทธองค์ก็ตรัสว่าสาเหตุอันดับหนึ่งให้มีความปฏิพัทธ์ได้แก่บุพเพสันนิวาส การเกื้อกูลกันในปัจจุบันยังนับเป็นเรื่องรองลงมา
สิ่งที่สะท้อนถึงบุพเพสันนิวาสคือความรู้สึกผูกพันลึกซึ้งและความรักรุนแรง เนื่องจากบุพเพสันนิวาสจะปรากฏในรูปของสัญญาเก่าที่เตือนให้จำภาวะคู่ระหว่างกันได้
ก็แล้วแต่เราจะเลือก เพราะเหมือนเป็นหมากทุกข์อีกหมากหนึ่งของสังสารวัฏ เหมือนเราเจอคู่ครองเก่าตอนเขาแต่งงานออกเรือนไปแล้ว หรือไม่ก็อายุต่างกันมาก หรือไม่ก็มีเหตุขัดแย้งอื่นๆ เราเลือกที่จะปักใจก็ได้ ทั้งรู้ว่าจะเป็นทุกข์ในระยะยาว ก็ต้องยอมรับมัน บางคนเห็นว่าสุขมากกว่าทุกข์ก็รับได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทุกข์มากกว่าสุข
คนปกติจะไม่มีทางเลือกอื่น แต่หากอยู่ในวงการภาวนา เราสามารถเลือกที่จะไม่ปักใจ ไม่ยอมลงให้กับวิบากเก่าอันซับซ้อนน่าเวียนหัว เพราะความสดชื่นทางใจแบบที่เรียกปีติสุขอันเกิดแต่วิเวกนั้น ชดเชย หรือเอาชนะความผูกพันทุกชนิดได้
ทางแยกมีอยู่มาก ขึ้นอยู่กับใครปลงใจกับแยกใดครับ
. . .
ถ้าปรารถนาอิสระทางใจ ก็สละเถอะครับ ถ้าไม่ได้รักกันทั้งคู่ แสดงว่าเราไม่ได้เคยเป็นคู่สร้างมากับเขาอย่างแท้จริง ทำนองเดียวกับรักข้างเดียวแบบหญิงชายนั่นแหละ อาจเพราะเคยทำให้เขาเจ็บปวดทรมานมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งก็ได้
โดย
ดังตฤณ ที่มา
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/007278.htm