ในวันที่ทุกสิ่งดูผิดพลาดไปหมด ขอเพียงเหลือใจที่ถูกต้องไว้ดวงเดียว แล้วใจจะพาทุกอย่างกลับเข้าที่เข้าทางไปเอง
มีอยู่จริงครับ ช่วงที่ชีวิตเหมือนดำ หรือเหมือนดิ่ง ทุกอย่างที่ตัดสินใจดูผิดพลาด หรือหนักกว่านั้นคือบุคคลหรือเหตุการณ์รอบตัวช่วยกระหน่ำซ้ำไม่มีดี มากันเป็นขบวนพาเหรด กะเล่นงานคุณแบบไม่ยอมให้พักหายใจ
แต่หากคุณรักษาใจไว้ไม่ให้เศร้าหมอง จะด้วยการฟังธรรม หรือมองเหตุการณ์ให้เป็นธรรม หรือสุดยอดคือเจริญสติให้เห็นอารมณ์ทางใจเป็นเพียงสภาพธรรมที่ไม่เที่ยง เศร้าได้ก็คลายได้ โกรธได้ก็หายได้ มืดได้ก็สว่างได้ ในที่สุดจะเหลือจิตที่ประกอบด้วยสติ ไม่ดำดิ่งตามช่วง "ดวงตก"
ผลที่ออกมาอย่างชัดเจนเป็นอันดับต้นๆ คือ คุณจะไม่ทำผิดพลาด ไม่พูดผิดพลาดให้ถลำลึกลงไปอีก ความคิดประชดชีวิตจะไม่อยู่ในหัว และอันดับต่อมาคุณจะพบว่าตัวเองค่อยๆอยู่ท่ามกลางทางออกของปัญหา ซึ่งแต่เดิมอาจมองไม่เห็นเลยสักทางเดียว เพราะจิตเคยหม่นมืดด้วยโมหะ ต่อเมื่อโมหะถูกชำแรกแทนด้วยแสงกุศล อะไรๆรอบตัวจึงปรากฏโดยสภาพแท้จริงของมัน คือไม่แย่อย่างที่คิด
ชีวิตจะแย่จริงๆก็เมื่อคุณยอมให้จิตถูกเหตุการณ์ร้ายๆปรุงแต่งจนถึงวันตาย นั่นแหละครับที่แสงสว่างมาไม่ทัน จะแก้ตัวอย่างไรก็สายเกินไปแล้ว
ดังตฤณพฤศจิกายน ๕๔
ที่มา
http://bit.ly/ydJvMF