ท่าทางคุณ wattanwi จะทำสมาธิผิดวิธีครับ

แต่ต้องชมว่า คุณเก่งที่รู้ตัวว่า จิตมันซึมนะ

เพราะคนจำนวนมากทำสมาธิแล้วจิตซึม แต่ไม่รู้ตัว บางคนเข้าใจว่าทำสมาธิได้ดีเสียอีก
วิธีการแก้ อันนี้ตอบตามความรู้นะครับ เคยฟังครูบาอาจารย์ท่านแนะศิษย์บางคนว่า ถ้ายังอยากทำสมาธิในท่านั่ง ลองเปลี่ยนเป็นนั่งสมาธิโดยลืมตาแทน แต่อันนี้ต้องไปลองทำดู เพราะจริตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ผมเป็นคนนั่งสมาธิแล้วจะซึมๆเหมือนกัน เพราะเคยชินกับการนั่งแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก พอนั่งปุ๊บจิตมันจะไหลเข้าร่องเดิมทันที
ทางแก้อีกอย่างคือ อย่าไปนั่งสิครับ ให้ลองเดินจงกรมดู เพราะหลักการเหมือนกันคือใช้กรรมฐานที่เป็นกายเคลื่อนไหว ใจเป็นคนดู เพียงแต่เปลี่ยนอิริยาบถจากนั่ง มาเป็นเดิน
คำแนะนำสุดท้ายคือ คุณอาจจะต้องนิยามคำว่า "ภาวนา" ให้กว้างขึ้นครับ ภาวนาไม่ได้จำกัดแต่การนั่งสมาธินะ ที่จริง ภาวนา โดยรากศัพท์ตรงๆ แปลว่า "ทำให้เจริญขึ้น" ความหมายโดยนัย คือทำให้ "จิต" เจริญ ด้วยสติ จนเกิดสัมมาสมาธิ และเกิดปัญญาตามมา
สิ่งสำคัญเบื้องต้นจึงต้องเจริญสตินะครับ ไม่ได้เป็นกฏตายตัวว่าต้องเริ่มจากนั่งสมาธิก่อนอย่างเดียว แล้วสติที่ควรเจริญเพื่อปัญญา เรียกว่า สติปัฏฐาน
วัตถุประสงค์หลัก คือเพื่อให้เห็นความจริงของกายและใจ ว่ามันไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ตัวเรา มันไม่ใช่ของดี ของเที่ยง แต่มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตนของเรา ฉะนั้นงานหลักจึงเป็นวิปัสสนา ส่วนสมถะ การทำสมาธิ เป็นส่วนสนับสนุน
วิปัสสนา เหมือนหน่วยรบ สมถะ เหมือนฝ่ายพลาธิการ คอยดูแลข้าวปลาอาหารให้ทหารมีแรง ออกไปรบได้เข้มแข็ง มันเกื้อหนุนกันอย่างนี้ ภาวนาจึงไม่ใช่เอาแต่นั่งสมาธิเอาเป็นเอาตาย
ยังไงก็อนุโมทนานะครับ ^^