พื้นฐานของการได้กำเนิดเป็นมนุษย์ก็คือ ศีล ๕ ค่ะ
ศีลข้อที่ ๓ ในจำนวน ๕ ข้อ
คือ
กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ไม่ก้าวล่วง แย่งชิง สามีภรรยาของรักของใคร
ในเบื้องต้นที่ทำไปโดยไม่รู้ ขาดเจตนา แต่เมื่อรู้แล้ว
เราก็จะมาถึงทางแยกของ
"กรรม" ที่เราจะต้องตรึกตรองให้หนักว่าจะตัดสินใจ เลือกเดินไปในเส้นทางใด
การมีเขาเราก็เจ็บปวด ส่วน การไม่มีเขาเราก็เจ็บปวด เหมือนกัน
แต่ระดับในน้ำหนักของความเจ็บนั้นจะต่างกันอย่างมหาศาล
เพราะ การมีเขานั้น คือล่วงละเมิดของรักของหวง สามีหญิงอื่น
อันนำความชอกช้ำใจมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ เบียดเบียนผู้อื่นให้เป็นทุกข์
สร้างวงจรแห่งภัยเวรแก่กัน
และเป็นการเลือกก้าวเท้าของเรา
ไปสู่ทางแห่งอบายภูมิ อันเป็นสุดขั้วของความ
"เจ็บ" ในเบื้องหน้าเมื่อกายแตก
ดั่งภูเขาลูกใหญ่ที่โถมทลายลงมาทับร่างแหลกเหลว
ในขณะที่ความเจ็บในปัจจุบันมนุษย์เหมือนก้อนหินเล็กๆ ลงใส่เท้า
เด็กเมื่อเกิดมาแล้ว ผู้เป็นพ่อย่อมต้องรับผิดชอบตามธรรม ตามหน้าที่
ส่วนสำหรับเรา ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจเลือกทาง
ก็ต้องรับผิดชอบต่อกรรมตนต่อไปในเบื้องหน้า
เรื่องของพระอรหันต์ในพุทธกาล
ที่ท่านได้รับผลกรรมจากการเคยล่วงศีลกาเมสุมิจฉาจาร
นำมาให้พิจารณาค่ะ
ภิกษุณีอิสิทาสี
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/007403.htmรายละเอียดของศีล
เบญจศีล
http://www.star4life.com/forum/index.php?topic=328.0