ผมต้องการผู้หญิงแสนดีสักคนเข้ามาในชีวิต ช่วยเป็นผู้หญิงคนนั้นให้ผมด้วยเถอะ
อือม์… มาขอดื้อๆอย่างนี้ฉันคงเห็นเหตุผลสมควรหรอกนะ
เวลาเห็นหญิงดีๆ ใจผู้ชายคิดอย่างนี้ทุกคน ผมแค่เป็นคนเดียวที่กล้าพูด กล้าขอ และคุณก็ควรเห็นค่าของคนที่ปากตรงกับใจ
ปากกับใจตรงกันไม่ได้แปลว่ากล้าเสมอไป บางทีมันอาจหมายถึงการเป็นคนช่างตื๊อ แล้วก็ชอบเรียกร้องความเห็นใจ!
แต่ผมก็น่าเห็นใจจริงๆ เพราะเป็นฝ่ายถูกผู้หญิงทำร้ายจิตใจมาตลอด
ทำร้ายยังไง?
เย็นชา ด่าแหลก กลับไปกลับมา เปลี่ยนใจง่าย แล้วก็ทิ้งขยันทิ้งไว้แต่โลกที่ไม่เหลืออะไรให้อยากอยู่ต่อ…
ผู้ชายต้องการอะไรจากผู้หญิงหรือ?
ความน่ารัก ความอ่อนหวาน ความเอาใจใส่ที่น่าอบอุ่น ความมีใจเดียวมั่นคง แล้ว… ถ้าเงินเดือนเยอะหน่อยก็ดี จะได้ช่วยๆกัน
หึหึ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผู้ชายควรได้สิ่งเหล่านั้นจากผู้หญิง?
ก็… เอ่อ… ผู้หญิงสมควรเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือ? รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงส่ออยู่แล้วว่าธรรมชาติออกแบบมาให้เป็นอย่างนั้น หรืออย่างน้อยก็ชวนให้ผู้ชายคาดหวังว่าเป็นอย่างนั้น
งั้นรูปร่างหน้าตาของผู้ชายก็บอก หรือชวนให้คาดหวัง ว่าควรเข้มแข็งกว่าผู้หญิง อย่างน้อยก็เป็นกำแพงปกป้องให้พึ่งพา เป็นหลังคาคุ้มแดดคุ้มฝนที่น่าอบอุ่น ทีนี้ฉันถามได้ไหมว่าคุณมีอะไรอย่างนั้นติดตัวอยู่หรือเปล่า?
เอ่อ… แต่ผมก็เป็นคนที่สมควรได้รับการเห็นใจจากผู้หญิงดีๆนะ ถ้าผมมีกำลังใจ ผมจะเป็นแมนกว่านี้ แต่นี่ผมถูกปล้นกำลังใจและความเชื่อมั่นในตัวเองไปหมดแล้ว โดยน้ำมือของผู้หญิงร้ายๆ!
สรุปคือมีคนผลักคุณหกล้ม คุณกำลังนอนอยู่กับพื้น และต้องการให้ฉันช่วยฉุด?
ถูกต้อง!
รู้ไหมฉันเห็นอะไร? ทันทีที่ฉันฉุดคุณขึ้นยืนได้ถนัด คุณจะกระโดดขี่หลังฉันก่อนฉันหลบทัน หรือสถานเบาก็เอนตัวเซเป็นตุ๊กตายางที่อ่อนเปียก หวังใช้บ่าของฉันเป็นไม้เท้าค้ำรักแร้ช่วยเดินต่อ!
มันจะไม่เป็นอย่างนั้น คุณจะเห็นผมเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง เดินต่อได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง!
แล้วทำไมไม่ลุกขึ้นมาเองตั้งแต่ยังนอนกองอยู่กับพื้นคะ? นิยามของลูกผู้ชายไม่ได้อยู่ที่การเดินต่อหลังรับการช่วยเหลือ เพราะผู้หญิงทุกคนก็ทำอย่างนั้นได้เหมือนกัน เป็นชายจะแท้หรือเทียมสมควรมีความแตกต่าง อย่างเช่นแข็งแรงพอจะลุกขึ้นมาเองได้ไหม!
นั่นเป็นความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลของผู้หญิง!
มันก็เหมือนกับความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลของคุณ คุณอยากให้ผู้หญิงน่ารัก อ่อนหวาน เอาใจใส่ อบอุ่น ซื่อสัตย์ แล้วก็ช่วยกันออกค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง หรือเผลอๆก็เกินครึ่ง โดยไม่สนใจว่าผู้หญิงต้องการอะไรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
มันแปลว่าผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายได้รับการช่วยเหลือก่อนเสมอไปใช่ไหม? อย่างนี้ฟ้องความเห็นแก่ตัวของผู้หญิงหรือเปล่า?
คนเราเริ่มต้นชีวิตด้วยการพึ่งพาผู้อื่นทั้งนั้น พวกเราออกจากจุดเริ่มต้นของความเห็นแก่ตัวพร้อมกัน แต่น้อยนักที่ไปได้ถึงเส้นชัยของความเห็นแก่คนอื่น ตอนคุณเข้ามาขอความช่วยเหลือจากใครต่อใคร คุณเห็นแต่ความน่าเห็นใจของตัวเอง และจะไม่รู้สึกเลยว่านั่นคือความเห็นแก่ตัว!
ผมเริ่มสำนึกผิด… อย่างนี้แปลว่าเริ่มเห็นแก่ตัวน้อยลงแล้วใช่ไหม?
สำนึกผิดแล้วยังสงสารตัวเองอยู่หรือเปล่า?
สงสาร…
งั้นแปลว่าทั้งความเห็นแก่ตัวและความอ่อนแอยังอยู่ครบถ้วน
ผมอยากร้องไห้…
ถ้าร้องเดี๋ยวนี้ คุณจะเห็นฉันเดินหนีไปเดี๋ยวนี้!
โธ่! ไม่ให้กำลังใจกันเลยหรือ? ผมกลายมาเป็นคนอ่อนแออย่างนี้เพราะชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องน่าเจ็บปวด และขณะนี้ผมก็เจ็บปวดเหลือเกิน
อย่าเพิ่งพูดถึงความเจ็บปวดเลย คุณไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงต้องเจออะไรบ้าง ถ้าขอสลับบทกัน ขอให้คนขี้สงสารตัวเองอย่างคุณเป็นฝ่ายคลอดลูก เชื่อเถอะว่าคงแหกปากร้องจนขาดใจตาย!
ทุกคนที่กำลังเศร้ามีสิทธิ์ฟังคำปลอบดีๆบ้างไม่ใช่หรือ?
ฉันไม่ถนัดปลอบด้วยคำลวงเพื่อต่ออายุความอ่อนแอให้กับใคร แต่ชอบให้กำลังใจด้วยคำจริงเพื่อสร้างความเข้มแข็งขึ้นมา คุณเห็นเด็กที่ล้มแล้วไม่ร้องไห้ แถมยังลุกขึ้นเองได้ไหม? เด็กพวกนั้นจะได้รับรอยยิ้มและอ้อมกอด ก็ต่อเมื่อล้มแล้วลุกขึ้นเดินหาพ่อแม่ได้เอง นั่นแหละวิธีที่พวกเขาโตขึ้นมา!
โอเค! ผมรู้สึกเข้มแข็งขึ้น แล้วก็สงสารตัวเองน้อยลงบ้างแล้ว
เปล่า… คุณแค่ได้คิดและรู้สึกดีขึ้น ถ้าพรุ่งนี้และวันต่อๆไปไม่วิ่งโร่หาที่พึ่ง นั่นแหละถึงค่อยมาอวดอ้างว่าคุณเข้มแข็งขึ้นและสงสารตัวเองน้อยลง!
การช่วยคนใกล้จมน้ำที่ดีที่สุด
คือการตั้งตนอยู่ในที่ปลอดภัย
และหาทางให้เขาช่วยตัวเอง
โดยที่คุณไม่ต้องโดดลงไปทั้งตัว โดย
ดังตฤณที่มา
http://dungtrin.com/empty4/08.htm